กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) สำรวจตลาดอุตสาหกรรมอาหารอุ่นร้อนเองในจีนพบความต้องการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการขยายตัวของเศรษฐกิจคนโสด คนขี้เกียจ และการบริโภคอาหารคนเดียว ชี้เป้าผลิตอาหารไทยที่ได้รับความนิยมอยู่แล้วไปขาย ทั้งต้มยำกุ้งอุ่นร้อนเอง ข้าวผัดสับปะรดอุ่นร้อนเอง ผัดไทยอุ่นร้อนเอง ข้าวและเนื้อสัตว์จากพืชอุ่นร้อนเอง คาดมีโอกาสสูง

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายของนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุด ได้รับรายงานจากนางสาวบูชิตา อินทรทัศน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ เมืองชิงต่าว สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงแนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารอุ่นร้อนเองของจีนปี 2568 โอกาสและช่องทางในการขยายตลาดอาหารอุ่นร้อนของไทยเข้าสู่ตลาดจีน

โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า ด้วยวิถีชีวิตของชาวจีนที่มีความรีบเร่งขึ้น ผู้บริโภคต้องการอาหารที่สะดวกในการรับประทาน ประกอบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจคนโสด (Single Economy) และเศรษฐกิจคนขี้เกียจ (Lazy Economy) ทำให้อาหารอุ่นร้อน ได้กลายเป็นหนึ่งในอาหารสะดวกซื้อที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้บริโภคกลุ่มนี้ รวมถึงการบริโภคอาหารคนเดียว และความนิยมกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การแคมปิง เพราะอาหารที่อุ่นร้อนซึ่งใช้งานง่าย ไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้า แต่อุ่นด้วยถุงหรือซองความร้อนจึงตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคในด้านความสะดวก

ทั้งนี้ ปัจจุบันจีนมีผู้ประกอบการอาหารอุ่นร้อนเองจำนวน 1,549 ราย โดยมีบริษัทใหม่ที่จดทะเบียนในกิจการอุตสาหกรรมอาหารอุ่นร้อนเองของจีนขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี และผู้บริโภคผลิตภัณฑ์อุ่นร้อนเองส่วนใหญ่อายุระหว่าง 18-24 ปี สัดส่วนร้อยละ 47.75 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็นักเรียน พนักงานออฟฟิศและผู้ที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง และมูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมอุ่นร้อนเอง มีมูลค่า 17,834 ล้านหยวน (83,819.80 ล้านบาท) ในปี 2563 แต่หลังจากนั้นตลาดมีแนวโน้มชะลอตัว และในปี 2567 ตลาดฟื้นตัวอยู่ที่ 17,640 ล้านหยวน (82,908 ล้านบาท)

สำหรับแนวโน้มการบริโภค พบว่า ผู้บริโภคจีน ได้หันมาตระหนักถึงเรื่องสุขภาพและความใส่ใจในความปลอดภัยของอาหารเพิ่มขึ้น รัฐบาลจีนมีนโยบายกำกับดูแลความปลอดภัยของอาหารที่เข้มงวดขึ้นมีการให้ความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์ของอาหารอุ่นร้อนเองที่ต้องปลอดภัยและปกป้องสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายและรีไซเคิลได้ รวมถึงมีความต้องการคุณสมบัติที่ชาญฉลาดมากขึ้น อาทิ การแสดงอุณหภูมิ และการแจ้งเตือนวันหมดอายุ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้บริโภค ส่วนช่องทางการจำหน่ายยังมีหลากหลาย อาทิ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีก

“ตลาดผลิตภัณฑ์อาหารอุ่นร้อนเอง เป็นอีกตลาดที่น่าจับตามองสำหรับผู้ประกอบการอาหารของไทย เนื่องจากอาหารเป็นอุตสาหกรรมที่ไทยมีชื่อเสียงในระดับสากล เป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคทั่วโลก

และยังมีวัตถุดิบคุณภาพดี จึงเป็นแต้มต่อสำหรับผลิตภัณฑ์ของไทยในการเข้ามาขยายตลาดผลิตภัณฑ์อาหารอุ่นร้อนเองในจีน โดยสินค้าที่มีโอกาส ต้องมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ สินค้ามีนวัตกรรม มีความสดใหม่ รสชาติดี และเน้นกระแสรักสุขภาพ ยกตัวอย่างเช่น ข้าวและต้มยำกุ้งอุ่นร้อนเอง ข้าวผัดสับปะรดอุ่นร้อนเองผัดไทยอุ่นร้อนเอง ข้าวและเนื้อสัตว์จากพืชอุ่นร้อนเอง เป็นต้น ที่เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมและชื่นชอบ ในตลาดจีนอยู่แล้ว สามารถที่จะพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อุ่นร้อนเองได้ ส่วนการขยายตลาด ต้องรุกทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ผ่าน KOL/KOC ก็จะยิ่งทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารไทยเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น”นางสาวสุนันทากล่าว

สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ http://www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169

 

#กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ #DITP #กระทรวงพาณิชย์ #“พาณิชย์แนะผู้ผลิตผู้ส่งออก #ลุยตลาดอาหารอุ่นร้อนเอง