“วราวุธ” รมว.พม. ชื่นชมผลงานสภาเด็กและเยาวชนฯ หนุนพลังคนไทยรุ่นใหม่เป็นพลเมืองโลก

วันที่ 18 ธันวาคม 2566 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้นางสาวนดา บินร่อหีม ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบเพื่อรับมอบนโยบายการขับเคลื่อนงานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ประจำปี 2567 โดยมีนางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวต้อนรับ ณ ห้องประชุมดรุณวิถี ชั้น 11 กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นายวราวุธ กล่าวกับสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ว่า การนำเสนอผลงานในหลายมิติของสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยเห็นได้ถึงพลังและความกระตือรือร้นในการทำงานอย่างเต็มที่ซึ่งตนขอชื่นชม และถือว่าการได้รับฟังเสียงของสภาเด็กและเยาวชนฯ เป็นหัวใจสำคัญของกระทรวง พม. และสังคมไทย จากนี้ไป การบอกถึงปัญหาของเด็กและเยาวชนให้ผู้ใหญ่ได้รับทราบในแต่ละด้านทั้งเรื่องการศึกษา ความรุนแรง การมีส่วนร่วม สุขภาพ สิ่งแวดล้อม แต่ละเรื่องถือเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะการที่น้องๆ ได้เดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ถือเป็นประชากรของโลก และขอให้ระลึกถึงเสมอว่าเมื่อเราสวมเสื้อเด็กและเยาวชนไทยไปพบปะกับเด็กและเยาวชนประเทศอื่นๆ เราเป็นตัวแทนของคน 60 กว่าล้านคน ดังนั้น น้องๆ ทุกคนต้องมองตัวเองไม่เพียงว่าเป็นเด็กและเยาวชนไทยแต่เป็นของโลก ดังนั้นมองปัญหาก็ต้องมองทั้งโลกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ดังนั้น การเสริมทักษะด้านภาษาอังกฤษ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญในการไปศึกษางานและร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อนเยาวชนจากประเทศต่างๆ

นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า จากการที่ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยรายงานว่าคณะกรรมการด้านสิ่งแวดล้อมไม่ได้มีการฟังเสียงจากเด็กและเยาวชน ตรงนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะปัจจุบันเรามีคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ มีผู้ใหญ่อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งตนเห็นว่าควรจะต้องมี และตนจะไปผลักดันให้มีตัวแทนจากสภาเด็กและเยาวชนเข้าไปอยู่ในคณะกรรมการฯ ด้วย เพราะเด็กคือผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำเอาไว้ อย่างในต่างประเทศเรื่องสิ่งแวดล้อมถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากต่อการเปิดและปิดภาคธุรกิจ เพราะให้ความสำคัญมากกับเรื่องสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นผลกระทบต่อมนุษย์ทุกคน

นายวราวุธ กล่าวต่อไปอีกว่า เด็กและเยาวชนถือเป็นพลังที่สำคัญที่สุดของประเทศ เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลทางความคิดสูง ดังนั้น การเติบโตท่ามกลางสังคมที่มีการสื่อสาร มีสื่อต่างๆมากมาย จึงทำให้มีบางกลุ่มที่พยายามหาประโยชน์จากพลังของคนรุ่นใหม่ พลังของเด็กและเยาวชน จึงขอฝากให้น้องๆ ทุกคน เวลาทำอะไรขอให้พูดคุยกัน ช่วยกันคิด เพราะอีกไม่นานประเทศชาติจะอยู่ในมือของทุกคน เราจึงต้องคิดว่าอยากเติบโต อยากให้ประเทศชาติ เป็นเช่นไร จะทำอะไรก็แล้วแต่ ขอให้ใช้สามัญสำนึก ใช้ความรู้สึก เพราะบางเรื่องไม่ได้ตัดสินด้วยสมอง แต่ตัดสินด้วยใจ ว่ารู้สึกว่าใช่หรือไม่ สังคมไทยมีขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ดังนั้น ไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่หลายสิ่งหลายอย่างยังคงอยู่ ความคิดและแนวทางการเติบโตของทุกคนและของประเทศอยู่ในมือของทุกๆ คนในสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย

 

นายวราวุธ กล่าวต่อไปอีกว่า อย่างไรก็ตามน้องๆ ต้องเตรียมศักยภาพของทุกคน ต้องมองให้รอบด้าน คิดให้ครบทุกมิติ ทุกวันนี้ความละเอียดอ่อนของสังคมนั้นเปลี่ยนไป วัยรุ่นจำเป็นต้องมีคนให้คำปรึกษาที่ถูกต้อง แต่ผู้ใหญ่บางคนยังไม่เข้าใจ ซึ่งวัยรุ่นสมัยนี้มีความละเอียดอ่อนมากขึ้น มีปัญหาหลายอย่างมากขึ้น จำเป็นที่จะต้องได้รับการชี้แนะ ให้คำปรึกษาอย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นจะมีไลฟ์โค้ดเยอะมาก ดังนั้น การให้คำปรึกษาทางจิตใจ ความรู้สึก ต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะสิ่งเหล่านี้สะท้อนไปถึงความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งทาง กระทรวง พม. โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน ให้ความสำคัญ

“การเดินทางของชีวิตพวกเราไม่มีอะไรง่าย ยิ่งโตยิ่งยากขึ้นๆ แต่ที่ดีคือเราจะรู้สึกสบายตัวขึ้น ไม่ใช่เพราะปัญหาน้อยลง แต่จะเริ่มชินกับปัญหา อย่างทุกวันนี้ พี่ท็อปเป็นทั้งหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา รัฐมนตรี ล้วนมีปัญหาร้อยแปด แต่เริ่มชินแล้ว อยู่ไปสักพักจะดีเอง ดังนั้น การบริหารจัดการทางความคิด แนวทางการดำเนินชีวิตของเด็กและเยาวชนที่จะเติบโตขึ้นมาในสังคมไทยจากนี้ไป จึงเป็นอะไรที่ท้าทาย ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งต่างๆ ไม่เฉพาะในประเทศไทยแต่รวมไปถึงสังคมโลก ดังนั้น จึงได้ย้ำว่าเราต้องรู้สถานการณ์เหตุการณ์ของโลก ต้องเป็นพลเมืองของโลก ไม่ใช่เป็นแค่คนไทย และเราจะได้มองเห็นภาพที่ใหญ่ขึ้น แล้วจะเข้าใจว่าเราเล็กขนาดไหน ทำงานต้องคิดให้ใหญ่ แต่ลงมือทำให้เล็กเข้าไว้ ทำทีละก้าวๆ เพราะถ้าคิดจะทำอะไรใหญ่ทีเดียว ไม่ใช่เรื่องง่าย และประเทศไทยจะเดินไปข้างหน้าได้ต้องอาศัยคนรุ่นใหญ่และคนรุ่นใหม่ เดินไปด้วยกันแล้วจะไปรอด” นายวราวุธ กล่าว

นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เกิดขึ้นเมื่อปี 2538 สมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งประกอบไปด้วยคนทุกเพศทุกวัย ทุกอาชีพ ทุกสถานะ รวมไปถึงมีนักเรียนนักศึกษาเข้ามาร่วมด้วย และเชื่อว่าอีกไม่นาน จะมีการคัดเลือกตัวแทนของเด็กและเยาวชนเพื่อเข้าไปอยู่ในคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะร่างนั้นต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน และรับฟังเสียงของทุกๆ คน

#ช่วย24ชั่วโมง #พม24ชม #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พม.หนึ่งเดียว # สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย #เด็กและเยาวชน #ดย