“พาณิชย์-DITP” เผยเทรนด์เฟอร์นิเจอร์ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติมาแรง
แนะผู้ประกอบการไทยศึกษา-ผลิต

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยเทรนด์การผลิตเฟอร์นิเจอร์ โดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติมาแรงในกลุ่มประเทศนอร์ดิก หลังมีส่วนช่วยในการปกป้องสิ่งแวดล้อม แนะผู้ประกอบการไทยศึกษา และนำมาปรับใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ มั่นใจมีโอกาสทำตลาดได้เพิ่มขึ้น

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ และให้รายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสาวณิชพร วรรณพฤกษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโคเปเฮเกน เดนมาร์ก ถึงผลการสำรวจตลาดเฟอร์นิเจอร์ ที่มีการพัฒนานวัตกรรมวัตถุดิบจากธรรมชาติ เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม ทำให้ตลาดมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และโอกาสในการขยายตลาดเฟอร์นิเจอร์ของไทย

โดยทูตพาณิชย์ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบริษัทผู้ประกอบการนอร์เวย์ ได้มีการพัฒนานวัตกรรมวัตุดิบเฟอร์นิเจอร์จากธรรมชาติเพิ่มขึ้น เช่น บริษัท Agoprene จากกรุงออสโล พัฒนานวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า Biofoam ที่เข้ามาทดแทนโฟมดั้งเดิมที่ผลิตจากพลาสติก เพื่อนำมาใช้เป็นวัสดุบุในเฟอร์นิเจอร์ โดยเริ่มต้นการวิจัยและทดลองจากการใช้เปลือกหอยนางรม บดเป็นผง และเปลี่ยนเป็นวัสดุฟอง ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกันกับที่ใช้กับขยะเกษตรกรรม (Agricultural waste) และเส้นใยไม้ (wood fibres) ที่ใช้ในปัจจุบัน แต่พบปัญหาว่า หลังจากได้ลองใช้วัสดุต่าง ๆ มากมาย ส่วนใหญ่กลับกลายเป็นโฟมแข็ง ไม่สามารถสร้างความยืดหยุ่นได้ จนในที่สุด ได้ค้นพบวิธีที่สามารถทำให้โฟมยืดหยุ่นได้ คือ การใช้สาหร่ายมาเป็นวัตถุดิบการผลิต โดยแปลงเป็นผงและอบในเตาอบแบบพิเศษ โดยจะสร้างโฟมเป็นลักษณะบล็อก ซึ่งมีความนุ่มเพียงพอสำหรับใช้กับเบาะรองนั่งและเก้าอี้ โดยเป้าหมายของบริษัท คือ การลดการใช้พลาสติกโพลีเมอร์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในชิ้นส่วนการผลิตเฟอร์นิเจอร์ กล่าวคือ การพัฒนาวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เป็นชิ้นส่วนในหมอน โซฟา และเบาะเก้าอี้

ทั้งนี้ โฟมจากสาหร่าย สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ 100% ลูกค้าสามารถทิ้งโฟมนี้ไว้ในดิน และโฟมจะย่อยสลายตามธรรมชาติภายในเวลา 8 เดือน หรือเร็วกว่านั้น หากหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาโอกาสในการขยายปริมาณการผลิตโดยการย้ายไปยังโรงงานผลิตที่ใหญ่ขึ้นในปีหน้า

ขณะเดียวกัน มีข้อมูลอีกว่า บริษัทผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์จากเดนมาร์ก คือ Mater ได้ผลิตเก้าอี้และพนักพิงที่ทำจากวัสดุเปลือกเมล็ดกาแฟ และขี้เลื่อยที่เหลือจากการผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่อื่น และผลิตเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งที่ทำจากขยะจากมหาสมุทร ส่วนบริษัทเฟอร์นิเจอร์ยักษ์ใหญ่ของโลก IKEA จากสวีเดน ได้วางนโยบายการใช้เฉพาะวัสดุหมุนเวียนและรีไซเคิลมาใช้เป็นวัตถุดิบในผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์เท่านั้นภายในปี 2573

นายภูสิตกล่าวว่า จากแนวโน้มเฟอร์นิเจอร์ในกลุ่มประเทศนอร์ดิกที่ให้ความสำคัญกับวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การออกแบบที่เรียบง่าย และความมุ่งมั่นต่อความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการเลือกใช้วัสดุธรรมชาติและอินทรีย์ เช่น สาหร่าย เปลือกเมล็ดกาแฟ และขี้เลื่อย รวมถึงการนำวัสดุอื่น ๆ จากธรรมชาติมาใช้ เช่น ผ้าลินิน ขนสัตว์ และปอ โดยวัสดุเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศสบาย ๆ กับผู้ใช้ด้วย ทำให้สินค้าเป็นที่ต้องการมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังพบว่า ในการออกแบบมีการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ถอดส่วนประกอบได้ รีไซเคิลได้ ออกแบบที่เรียบง่าย มีการผลิตแบบประหยัดพลังงาน การใช้ไม้จากแหล่งที่ยั่งยืน และไม้ที่ได้รับการรับรอง และนิยมเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับแต่งเข้ากับห้องได้หลายรูปแบบ (Modular Furniture) ซึ่งผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ของไทย หากต้องการเจาะตลาดในกลุ่มประเทศนอร์ดิก ควรจะศึกษารูปแบบการผลิตที่เน้นการใช้วัสดุที่ปกป้องสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรม หากทำได้ตามนี้ ก็จะมีโอกาสในการส่งออกและทำตลาดได้มากขึ้น

สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
(DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169