15 แบรนด์จากโครงการบ่มเพาะแบรนด์ไทย หรือ IDEALAB รุ่น 7 สุดแกร่ง ผ่านการติวเข้ม

จากผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์และรับคำแนะนำจากคอมเมนท์เทเตอร์ระดับประเทศ

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) มอบประกาศนียบัตรการันตี พร้อมรับคู่มือแบรนด์ ไว้เป็นไบเบิลเพื่อก้าวสู่สนามการค้าโลกและสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนต่อไป

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “โครงการบ่มเพาะแบรนด์ไทย (IDEA LAB : Thai Brand Incubation Program)” จัดต่อเนื่องมาจนถึงรุ่นที่ 7 เป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่กรมได้ดำเนินการเพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ ตอบสนองความต้องการเมกะเทรนด์สของตลาดโลก โดยภายใต้แนวคิด “Brandiverse” ของปีนี้ โครงการฯ ได้ส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ที่มีแนวคิดการดำเนินธุรกิจแบบ BCG (Bio-Circular-Green) และส่งเสริม Soft Power ของไทย ทั้งในกลุ่มสินค้านวัตกรรมอาหาร สุขภาพความงาม และแฟชั่นไลฟ์สไตล์

ที่มีการนำนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสร้างความแตกต่างและอัตลักษณ์ให้กับ  แบรนด์ของตนเอง

​โดยผู้ประกอบการทั้ง 15 แบรนด์ที่ผ่านการบ่มเพาะในปีนี้ ถือได้ว่าเป็นแบรนด์ศักยภาพที่ได้รับการพัฒนาทั้งด้านองค์ความรู้ คำแนะนำจากคณะผู้เชี่ยวชาญ และที่สำคัญที่สุดคือการได้รับคู่มือกลยุทธ์ด้านการสร้างแบรนด์สำหรับนำไปประยุกต์ใช้ ยกระดับการสื่อสารแบรนด์ สร้างภาพลักษณ์ที่ดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ด้วยแนวทางการสื่อสารการตลาดเชิงกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ สามารถแข่งขันในตลาดการค้าสากลได้อย่างยั่งยืน

ด้าน ม.ล. ภาสกร อาภากร ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กล่าวว่า โครงการ IDEA LAB รุ่นที่ 7 นี้ มีการจัดกิจกรรมบ่มเพาะด้านการสร้างแบรนด์แบบครบวงจร ระหว่างเดือนพฤษภาคม – กันยายน 2567 ประกอบด้วย กิจกรรมเสวนาเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการสร้างแบรนด์ โดยมีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมจำนวน 110 แบรนด์ กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการและพัฒนาเชิงลึก

มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมจำนวน 64 แบรนด์ ซึ่งจะต้องคัดเลือกให้เหลือ 15 แบรนด์ โดยตัดสินจากกิจกรรมนำเสนอแนวทางกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ผู้ประกอบการทั้ง 15 แบรนด์ที่ได้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญของโครงการ และข้อมูลการพัฒนาแบรนด์ของตนเองในรูปแบบเฉพาะตัวแบบเข้มข้น เจาะลึก รวมทั้งจัดทำแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ในรูปแบบเฉพาะของตนเอง นอกจากนี้ ยังได้เข้าร่วมกิจกรรมเตรียมความพร้อมแบรนด์ศักยภาพเจาะตลาดต่างประเทศ และกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ (OBM) กับตลาดต่างประเทศ คือจีนและอินเดีย โดยมีคาดการณ์มูลค่าการสั่งซื้อภายใน 1 ปี กว่า 5 ล้านบาท รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Thaitrade.com และสื่ออื่นๆ ด้วย

“สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการฯ ในปีนี้ พบว่าแต่ละแบรนด์ให้ความสนใจในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ

มีความกระตือรือร้นในการฝึกปฏิบัติ การทำงานร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญในการค้นหาจุดแข็งและสร้างความแตกต่าง รวมไปถึงแนวทางการสื่อสารแบรนด์ จัดทำแผนกลยุทธ์ด้านการสร้างแบรนด์ออกมาเป็น Brand Bible เพื่อการดำเนินธุรกิจและการสร้างแบรนด์ในอนาคต”

โดยในพิธีมอบประกาศนียบัตรในครั้งนี้ ผู้ประกอบการทั้ง 15 แบรนด์ ยังได้ทำการ Pitching เพื่อนำเสนอกลยุทธ์การพัฒนาแบรนด์ของตนเอง โดยได้รับเกียรติจากผู้บริหารองค์กรธุรกิจค้าปลีก และผู้นำในด้าน Retail Business ชั้นนำของประเทศ ร่วมให้คำแนะนำถึงโอกาสทางการค้า ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในการสร้างคุณค่าของแบรนด์สินค้าให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และให้สามารถขยายมูลค่าการค้าระหว่างประเทศต่อไป

 

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

… กันยายน 2567