เซ็นทรัลพัฒนา นำโดย นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง และกรุงศรี นำโดย นายประกอบ เพียรเจริญ (ที่ 2 จากขวา) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ และนายฮิโรทากะ คุโรกิ (ซ้าย) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ผสานความร่วมมือครั้งสำคัญเพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืน ผ่านสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน และสัญญาอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงทางการเงินที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน โดยความร่วมมือครั้งนี้เป็นไปตามพันธกิจของเซ็นทรัลพัฒนาและกรุงศรี
ที่ต้องการบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี พ.ศ. 2593
กรุงเทพฯ (15 ตุลาคม 2567) – บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน และ กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ผสานความร่วมมือครั้งสำคัญเพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืน ผ่านสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan: SLL) และสัญญาอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงทางการเงินที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Derivatives) โดยความร่วมมือครั้งนี้เป็นไปตามพันธกิจของเซ็นทรัลพัฒนาและกรุงศรี ที่ต้องการบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี พ.ศ. 2593
ภายใต้ความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ กรุงศรี ได้ให้การสนับสนุนสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน เป็นวงเงินถึง 2,850 ล้านบาท และสัญญาอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมระยะยาวของเซ็นทรัลพัฒนา ในการจัดสรร 30% ของเงินกู้ยืมเพื่อดำเนินงานตามกรอบการพัฒนา ESG ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการริเริ่มโครงการต่าง ๆ เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 1 และ Scope 2 การใช้พลังงานทดแทน และการพัฒนาอาคารสีเขียวในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของเซ็นทรัลพัฒนา
นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เซ็นทรัลพัฒนามุ่งมั่นสร้างสรรค์ ‘พื้นที่’ เพื่อยกระดับชีวิตของผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ด้วยวิสัยทัศน์ ‘Imagining better futures for all’ และเดินหน้าพัฒนาความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ตามแผนงาน Journey to NET Zero 2050 การเงินเพื่อความยั่งยืน หรือ ESG Financing ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญของเรา เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก เราขอชื่นชมกรุงศรีที่เป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่านสู่การเงินเพื่อความยั่งยืน และขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนด้วยดีเสมอมา”
นายประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคาร
กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ให้การสนับสนุนเซ็นทรัลพัฒนาอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ได้ให้การสนับสนุนสินเชื่อสีเขียวไปในปี 2565 และปี 2566 โดยความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการให้การสนับสนุนสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งเครื่องพิสูจน์ความมุ่งมั่นในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของเซ็นทรัลพัฒนา และสานต่อความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของเมืองไทย รวมถึงเป็นแบบอย่างในการบูรณาการหลักการ ESG ในทุกภาคส่วน ขณะเดียวกัน การให้การสนับสนุนสินเชื่อดังกล่าวยังสะท้อนความมุ่งมั่นของกรุงศรีที่จะขยายธุรกรรมทางการเงินในการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมและความยั่งยืนที่ 100,000 ล้านบาท ภายในปี พ.ศ. 2573 เรามีความยินดีที่จะได้ก้าวเดินบนเส้นทางแห่งความยั่งยืนนี้ไปพร้อมกับเซ็นทรัลพัฒนา และพร้อมที่จะสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง”
นายฮิโรทากะ คุโรกิ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีรู้สึกภูมิใจที่ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์อนุพันธ์ที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Derivatives) ให้กับเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งเป็นธุรกรรมอนุพันธ์เชื่อมโยงกับความยั่งยืนครั้งแรกของเซ็นทรัลพัฒนา ผลิตภัณฑ์นี้ออกแบบมาเพื่อช่วยลูกค้าบริหารความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย และยังมอบผลประโยชน์ตามการบรรลุเป้าหมายด้าน ESG ความสำเร็จของการนำเสนอผลิตภัณฑ์นี้เกิดจากความร่วมมือของหลายภาคส่วนภายในกรุงศรี เพื่อบูรณาการผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ส่งเสริมความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน และอนุพันธ์ที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ซึ่งทำให้กรุงศรีสามารถนำเสนอโซลูชันทางการเงินที่สอดคล้องกับเป้าหมายการลดปริมาณคาร์บอน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับเซ็นทรัลพัฒนา”