กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผย 4 เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่กำลังมาแรงในตลาดแคนาดา ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับสินค้าที่ดีต่อสุขภาพเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แนะผู้ผลิตผู้ส่งออกไทยศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค และผลิตสินค้าให้ตรงตามความต้องการมั่นใจมีโอกาสส่งออกได้เพิ่มขึ้นแน่

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ และให้รายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากนางชญาดา สิรินุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแวนคูเวอร์ แคนาดา ถึงเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่กำลังนิยมในแคนาดา และโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าว เจาะเข้าสู่ตลาดแคนาดาด

ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลว่า สมาคมผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพแคนาดา (Canadian Health Food Association) ซึ่งทำหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพในแคนาดา
ได้เผยเทรนด์การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังได้ความนิยมอยู่ในปัจจุบัน ไว้ 4 รายการ ได้แก่
1.Cafe Culture Comes Home จากความนิยมการบริโภคผลิตภัณฑ์ Plant base ที่ยังมีต่อเนื่องตั้งแต่ร้านอาหารจนกระทั่งถึงร้านกาแฟทำให้แบรนด์ผู้ผลิตชาและกาแฟต่าง ๆ มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ชาและกาแฟที่มีการนำส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพ และผู้บริโภคสามารถทำเองที่บ้านได้ง่าย ๆ เช่น บริษัท Two Bears ได้ผลิตกาแฟไนโตรเจนพร้อมดื่ม หรือ บริษัท Sproos ที่ผลิตชาเขียวมัทฉะสูตรเพิ่มคอลลาเจนที่ผู้บริโภคเพียงแค่ ผสมกับนมหรือน้ำที่ผู้บริโภคชื่นชอบแล้วพร้อมดื่มได้ทันที
2.Rooted in Nature: Clean Hair Care ปัจจุบันเมื่อผู้บริโภคหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายที่ผลิตจากสูตรธรรมชาติมากขึ้น เห็นได้จากที่หลายบริษัทได้มีการออกผลิตภัณฑ์ดูแลผม เช่น Hello Joyous ได้ออกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมจากธรรมชาติชนิดแชมพูสระผมแบบแห้ง ที่ทำจากดินเหนียวและแป้งที่ให้ความรู้สึกเดียวกับการสระผมด้วยน้ำ แต่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเส้นผม นอกจากผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมภายนอกแล้วบริษัท Herbaland ยังได้มีการออกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมจากภายในสู่ภายนอก ด้วยการบริโภคกัมมี่ไบโอตินซึ่งถือเป็นวิตามินที่ปลอดภัยและมีความเป็นไปได้ต่ำมากที่จะเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ และยังสะดวกในการรับประทานสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงและบำรุงผมและเล็บ
3.Oat Goes Beyond Milk สำหรับผู้บริโภคที่ชื่นชอบนมข้าวโอ๊ต สามารถเห็นได้ว่า ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมข้าวโอ๊ตมากมาย เช่น ไอศกรีมของ Oat & Mill ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภภัณฑ์วีแกน 100% นอกจากนี้ Beyond Moo ยังเป็นอีกบริษัทที่ใช้ข้าวโอ๊ตในการทำ Oatgurt หรือ โยเกิร์ตที่ทำมาจากข้าวโอ๊ต ซึ่งมีโปรไบโอติกสูงและความคงตัวของกรีกโยเกิร์ต และแม้แต่วัตถุดิบจากเนยก็ยังได้รับการพัฒนาผลิตจากข้าวโอ๊ตแทนการใช้ไขมันสัตว์
4.Ocean Ingredients Make Waves จากการที่ผู้บริโภคได้ตระหนักถึงคุณประโยชน์ของส่วนผสมที่มาจากท้องทะเลที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง เช่น สาหร่ายทะเลและมอส ส่งผลให้แบรนด์ผู้ผลิตอาหารต่างๆ อาทิ  แบรนด์ Seed to Surf มีการนำเสนอปลากระป๋องวีแกนทำจากผักและสาหร่ายทะเลในการผลิต นอกจากนั้น ยังมีแบรนด์ Seatales ที่มีนโยบายสรรหาอาหารทะเลอย่างมีความรับผิดชอบ อาทิ ปลาซาร์ดีนและปลาทูน่าที่จับตามธรรมชาติ และแบรนด์ Ocean’s Halo ซึ่งเป็นแบรนด์ขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่ายที่ใช้บรรจุภัณฑ์ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“จากการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพและการใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ถือว่าได้รับความนิยม จากผู้บริโภคชาวแคนาดาอย่างมาก และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต เนื่องจากผู้บริโภคมองเห็นถึงคุณประโยชน์
จากการบริโภคสินค้าออร์แกนิกทั้งในด้านเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีกระบวนการผลิตที่โปร่งใสจึงเป็นโอกาส ของผู้ผลิตอาหารของไทยโดยต้องปรับตัวการผลิตให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภค และต้องศึกษาพฤติกรรม ของผู้บริโภค สถานการณ์ตลาดปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต เพื่อการตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างสูงสุดจึงจะทำให้สินค้าไทยส่งออกไปยังตลาดแคนาดาได้เพิ่มขึ้น”นายภูสิตกล่าว

สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
(DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169