พม. จับมือ AIS ACADEMY สานต่อ “ภารกิจคิดเผื่อ” ส่งต่อขีดความสามารถของบุคลากรและเทคโนโลยีดิจิทัล

ร่วมยกระดับคุณภาพชีวิต แก้วิกฤติประชากร ลดทอนความเหลื่อมล้ำ อย่างยั่งยืน

วันนี้ (22 เม.ย. 67) เวลา 13.00 น. นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) และ นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท AIS และ

กลุ่มอินทัช ร่วมแถลงข่าวความร่วมมือระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กับ AIS Academy ขับเคลื่อนโครงการ “ภารกิจคิดเผื่อ” เดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยมีประเด็นสำคัญ

ในการแถลงข่าว ดังนี้ 1) นโยบายของทางกระทรวง พม. ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย และ 2) กลยุทธ์การทำงานของ AIS Academy ภายใต้โครงการ ภารกิจคิดเผื่อ ในการนำจุดแข็งทั้งในเรื่อง บุคลากรและเทคโนโลยี มายกระดับการใช้ชีวิตของคนไทย นอกจากนี้ มีการส่งมอบแท็บเล็ตให้กับเด็กและเยาวชนในสถานรองรับของกระทรวง พม. จำนวน 450 เครื่อง เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้นำไปใช้ประโยชน์ในการศึกษา เรียนรู้ และสืบค้นข้อมูลผ่านระบบดิจิทัลให้รู้ทันโลกในปัจจุบัน ทั้งนี้ มีคณะผู้บริหารกระทรวง พม. และผู้บริหารกลุ่มบริษัท AIS และกลุ่มอินทัช เข้าร่วม ณ ห้องประชาบดี ชั้น 19 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว ถนนกรุงเกษม กรุงเทพฯ

นายอนุกูล กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังเผชิญสถานการณ์วิกฤตของประชากร ทั้งอัตราเด็กเกิดน้อยลง จำนวนวัยแรงงานลดลง ผู้สูงอายุมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่า ปี 2579 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยระดับสุดยอด (Super-Aged Society) คือมีสัดส่วนผู้สูงอายุมากกว่าร้อยละ 30 กระทรวง พม. จึงให้ความสำคัญและเร่งดำเนินมาตรการต่างๆ ครอบคลุมเรื่องการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีคุณภาพ การพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุและคนพิการ เพื่อเป็นกำลังแรงงานให้กับประเทศ รวมถึงการเสริมพลังวัยทำงาน เพื่อให้สามารถสร้างครอบครัวและดูแลสมาชิกในครอบครัวได้ ตลอดจนคำนึงถึงการพัฒนาระบบที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาความมั่นคงของครอบครัว เอื้อให้ประชาชนมีหลักประกันในการดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมที่มีคุณภาพ อันเป็นรากฐานที่สำคัญของสังคมไทย ไม่เพียงแต่กระทรวง พม. เท่านั้น วันนี้เราได้ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ ทุกภาคส่วน เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถเข้าถึงบริการ และสิทธิสวัสดิการของภาครัฐอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวก ทั้งในเรื่องการให้บริการประชาชน การพัฒนาเครื่องมือเพื่อช่วยบริหารจัดการองค์กร นำไปสู่ประสิทธิภาพในการดูแลประชาชนทุกช่วงวัย

นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า วันนี้เป็นการจุดไม้ขีดไฟของ AIS กับกระทรวง พม. ซึ่งได้มีความร่วมมือกันตั้งแต่ปี 2564 ไม่ว่าจะเป็น AIS Academy for THAIS, อุ่นใจอาสาพัฒนาชีพ และห้องสมุดดิจิทัล เพื่อร่วมกันลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมในสังคมไทย ซึ่งทำให้เห็นว่าภาครัฐบาลและภาคเอกชนมีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่กระทรวง พม. ดูแล อาทิ เรื่องอาชีพ การนำเทคโนโลยีมาใช้ผ่านการทำงานของสถาบันการศึกษา ที่ให้น้องๆ เยาวชน เข้ามาทำกิจกรรมในการสร้างนวัตกรรมให้กับผู้สูงอายุและคนพิการ สิ่งเหล่านี้จะเป็นความร่วมมือกันในระยะต่อไป ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้สังคมได้ทราบว่าการทำงานภาครัฐอย่างเดียว หรือภาคเอกชนอย่างเดียว ไม่เพียงพอในการที่จะเข้ามายกระดับการพัฒนาคนไทย ทั้งนี้ จากความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม. และ AIS Academy ที่มีเป้าหมายสำคัญในการนำศักยภาพของ AIS ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลชั้นนำ ผ่านโครงการ “ภารกิจคิดเผื่อ” ร่วมสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิต แก้วิกฤติประชาชน จะเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงภาพความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการหนุนเสริมการทำงานระหว่างกัน เพื่อนำไปสู่การเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชน พร้อมสร้างความเท่าเทียม อันจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยได้อย่างยั่งยืน

นางสาวกานติมา กล่าวว่า ภายใต้การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของ AIS เราให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการเติบโตแบบร่วมกันของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการสร้างการเข้าถึงดิจิทัลให้กับคนไทยทุกกลุ่ม เพราะเราเชื่อว่าการมีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่แข็งแรงไม่ได้สร้างการเติบโตให้กับภาคธุรกิจเท่านั้น แต่ศักยภาพของดิจิทัลเทคโนโลยีและนวัตกรรมยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานต่างๆ หรือ Digital Inclusion อีกด้วย การดำเนินงานภายใต้ “ภารกิจคิดเผื่อ” โดย AIS Academy นั้น สอดคล้องกับ SDGs เป้าหมายที่ 10 คือ การลดความไม่เสมอภาคภายในและระหว่างประเทศ (Reduce Inequalities) รวมถึง ข้อ 3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และข้อ 4 การศึกษาที่มีคุณภาพ โดยส่งเสริมการรวมกลุ่มทางสังคม ซึ่งพนักงาน AIS พร้อมจะมีส่วนช่วยลดช่องว่างระหว่างกลุ่มคนต่างๆ ขจัดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและการเมือง เพื่อให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ดังนั้นการร่วมทำงานกับกระทรวง พม. ตั้งแต่ปี 2564 จึงเป็นการนำศักยภาพจุดแข็งของพนักงานและองค์กรในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม มาส่งต่อ แบ่งปัน ในฐานะเครื่องมือ (Solutions) ที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม ยกระดับขีดความสามารถประชาชนและสังคม ให้ผ่านพ้นวิกฤติประชากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแน่นอนว่าตลอดระยะเวลาที่ได้ทำงานร่วมกัน ทำให้เราเข้าใจถึงปัญหาของแต่ละกลุ่มได้อย่างชัดเจน ส่งผลให้สามารถนำองค์ความรู้มาสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนคนไทยกลุ่มต่างๆ ได้อย่างตรงจุด อันประกอบไปด้วยแนวทางการทำงานในแกนต่างๆ ดังนี้

1. สร้างนวัตกรรมยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่คนพิการและผู้สูงอายุ ผ่านโครงการ “Jump Thailand Hackathon 2024”

2. สร้างทักษะยกระดับการพัฒนาอาชีพผ่านโครงการ “Train The Trainer” จากโค้ชอุ่นใจอาสา ให้แก่เจ้าหน้าที่กระทรวง พม. เพื่อส่งต่อไปยังประชาชนในการพัฒนาอาชีพต่อไป

3. สร้างความรู้เพื่อครอบครัวเข้มแข็งจาก Digital Content ในรูปแบบของบทเรียน โดยพนักงานอุ่นใจอาสา

4. สร้างโอกาสเข้าถึงความรู้อย่างยั่งยืน ผ่านโครงการห้องสมุดดิจิทัล ปันความรู้ ด้วยแพลตฟอร์ม AIS ReadDi พร้อมมอบแท็บเล็ตเพื่อเป็นช่องทางในการเข้าถึงองค์ความรู้ผ่านโลก Digital อีกด้วย

นางสาวกานติมา กล่าวในตอนท้ายว่า AIS Academy ขอปวารณาตัวเป็นเสมือนไม้ขีดไฟเล็กๆ ที่พร้อมจะจุดประกายการรวมพลังของสังคมในการร่วมทำงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย จากศักยภาพของพนักงาน, เทคโนโลยีดิจิทัลทันสมัยและโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล, การมีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง พร้อมด้วยช่องทางการเข้าถึงประชาชนมากกว่า 45 ล้านรายทั่วประเทศ ที่จะเป็นเสมือนโอกาสในการลดช่องว่าง ขจัดความเหลื่อมล้ำ อันจะเป็นการสร้างโอกาสให้เขาได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ รวมถึงเป็นการส่งต่อพลังใจไปสู่กลุ่มประชาชนที่ยังคงอยู่ในภาวะพึ่งพิง ให้ก้าวพ้นจากปัญหาวิกฤติประชากรได้ในท้ายที่สุด

 

#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธศิลปอาชา #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ภารกิจคิดเผื่อ #พัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยทุกช่วงวัย