ในช่วงเวลานี้ ผู้ชมจำนวนมากต่างมุ่งหน้าเข้าสู่โรงภาพยนตร์ใกล้บ้าน เพื่อชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่กำลังเป็นกระแสแรงที่สุดอยู่ในขณะนี้ ชื่อของหนังเรื่องนั้นอาจไม่จำเป็นต้องเอ่ย ทุกคนต่างรับรู้ตรงกันดี
แต่ท่ามกลางกระแสคลื่นลูกใหญ่ ยังมีภาพยนตร์ไทยขนาดเล็กอีกหนึ่งเรื่อง ที่ยืนหยัดฉายเคียงข้างอย่างไม่เกรงกลัว ด้วยหัวใจที่ใหญ่เกินตัว
ภาพยนตร์เรื่องนั้นคือ “ดรีม (DREAM)”


“ดรีม” อาจไม่ใช่ภาพยนตร์แฟนตาซีที่อัดแน่นด้วยทุนสร้างมหาศาลหรือเทคนิคอลังการ หากแต่เป็นภาพยนตร์มิวสิคัลที่กล้าหาญ เล่าเรื่องผ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษเกือบทั้งหมด (พร้อมซับไตเติลภาษาไทย) และเลือกใช้ “เสียงเพลง” เป็นภาษาหลักในการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของตัวละคร
ผลลัพธ์ที่ได้ คือมนต์เสน่ห์เฉพาะตัวของภาพยนตร์เรื่องนี้ มนต์ขลัง อบอุ่น และจริงใจ




เรื่องราวพาเราออกเดินทางไปพร้อมกับ “เล็ก” เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่ต้องตัดสินใจหนีออกจากบ้าน และก้าวเข้าสู่โลกกว้างที่เต็มไปด้วยอุปสรรค บททดสอบ และความยากลำบากระหว่างทาง
แม้ต้องเผชิญกับความโหดร้ายของชีวิต เล็กกลับไม่ยอมทรยศต่อความถูกต้อง ไม่ยอมทำสิ่งไม่ดีเพื่อแลกกับความสุขของตนเอง การเดินทางของเธอจึงไม่ใช่แค่การผจญภัย หากแต่เป็นการพิสูจน์หัวใจที่บริสุทธิ์และแน่วแน่
สิ่งที่โดดเด่นอย่างยิ่งของ “ดรีม” คือการเลือกให้ กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของบทสนทนา ถูกถ่ายทอดผ่านการขับร้องเพลง เพลงแต่ละบทไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อความไพเราะ แต่ทำหน้าที่เป็นเสียงภายในจิตใจของตัวละคร ถ่ายทอดความหวัง ความกลัว ความเจ็บปวด และความฝัน ออกมาอย่างตรงไปตรงมาและงดงาม


การใช้ “เด็ก” เป็นศูนย์กลางของเรื่อง คือหัวใจสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้
เด็กคือสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ความจริงใจ และการมองโลกอย่างซื่อตรง เมื่อหนังเลือกให้เด็กเป็นผู้ตั้งคำถาม หนังจึงสามารถตั้งคำถามกับโลกของผู้ใหญ่ได้อย่างทรงพลัง
ผู้ใหญ่เห็นแก่ตัวเกินไปหรือไม่
สังคมกำลังหลงทางอยู่หรือเปล่า
ครอบครัวกำลังร้าวรานเพียงใด
และความโหดร้าย ความโดดเดี่ยว ความเหงา กำลังกัดกินหัวใจของผู้คนแค่ไหน

ประเด็นหนักหน่วงเหล่านี้ถูกเล่าออกมาอย่างอ่อนโยน ผ่านสายตาของเด็ก ทำให้ผู้ชมรู้สึกเจ็บลึก โดยไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงหรือคำพูดแข็งกระด้าง
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ภาพยนตร์ซึ่งมีเด็กเป็นศูนย์กลาง สามารถเข้าถึงผู้ชมได้ง่าย ข้ามพรมแดนของภาษาและวัฒนธรรม และทำให้ “ดรีม” ก้าวไปยืนบนเวทีระดับนานาชาติได้อย่างสง่างาม
สำหรับผู้ชมชาวไทย “ดรีม” เปรียบเสมือน
Wizard of Oz หรือ Alice in Wonderland ฉบับไทย
ที่ดูง่าย อบอุ่น สนุก และเต็มไปด้วยจินตนาการ
การผจญภัยของ “เล็ก” ทำให้ผู้ชมหลงรักตัวละคร และหลงรักภาพยนตร์เรื่องนี้โดยไม่รู้ตัว เพราะคุณงามความดี ความกล้าหาญ และความจริงใจของเด็กน้อยคนนี้ คือหัวใจแท้จริงของเรื่องราวทั้งหมด
“ดรีม” เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่เพียงแค่เด็กๆ หรือเยาวชนที่ควรได้รับชม แต่ผู้ใหญ่อย่างเราๆ เองก็ควรเปิดใจเข้าไปดูเช่นกัน
บางทีภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจพาเราได้ย้อนกลับไปค้นพบ “ความดี” และ “ความบริสุทธิ์” บางอย่างในตัวเราเอง สิ่งที่อาจเลือนหายไป เมื่อเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่
และนั่นอาจเป็นความฝันที่งดงามที่สุด
ที่ภาพยนตร์เรื่องเล็กๆ เรื่องหนึ่ง จะมอบให้กับผู้ชมได้
#ดรีม #ภาพยนตร์เพลง #DREAM #Musical



