กรุงเทพมหานคร – กระทรวงดีอี โดย ดีป้า จัดกิจกรรม Coding Bootcamp & Roadshow และ Coding War พื้นที่ภาคกลาง ภายใต้โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย หลังกิจกรรมในพื้นที่ภาคอีสานตอนกลางได้รับกระแสตอบรับดีเยี่ยม รุกติวเข้มทักษะโค้ดดิ้งนักเรียน – ครู สร้างความตระหนักรู้ประชาชน พร้อมเปิดพื้นที่ให้เด็กไทยแข่งขันทักษะด้านโค้ดดิ้งเพื่อเข้าร่วมแข่งขัน Coding War รอบ Final ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 13 – 15 กันยายนนี้ ชี้โครงการดังกล่าวจะช่วยสร้างกำลังคนดิจิทัลที่มีศักยภาพรองรับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม และแก้ไขปัญหาการขาดแคลนกำลังคนดิจิทัลของประเทศได้อย่างยั่งยืน

                                                                                 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) เป็นประธานเปิดกิจกรรม Coding Bootcamp & Roadshow และ Coding War พื้นที่ภาคกลาง ภายใต้โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย โดยมี ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการใหญ่ รวมถึงคณะผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และคณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง ประชาชนทั่วไปที่สนใจร่วมในกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ

                                                                                       นายประเสริฐ เปิดเผยว่า โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย ถือเป็นโครงการในแผนงานระยะยาวที่มุ่งสร้างครูผู้สอนที่พร้อมถ่ายทอดความรู้และทักษะด้านโค้ดดิ้ง ทักษะดิจิทัลพื้นฐานที่สำคัญแห่งศตวรรษที่ 21 แก่นักเรียนรุ่นต่อรุ่น ควบคู่ไปกับการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเรียนการสอน ซึ่งทั้งหมดจะช่วยสร้างเมล็ดพันธุ์ดิจิทัลที่มีความพร้อมต่อการสร้างรากฐานอนาคตของประเทศ แก้ไขปัญหาการขาดแคลนกำลังคนดิจิทัลในระยะยาวและยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายสำคัญในการเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ด้านดิจิทัลของประเทศ เครื่องยนต์ที่สามของนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ดิจิทัลของกระทรวง หรือ The Growth Engine of Thailand

                                                                                  ขณะที่ ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า กิจกรรม Coding Bootcamp & Roadshow (วันที่ 8 – 9 ก.ค.) และกิจกรรม Coding War (วันที่ 8 – 10 ก.ค.) พื้นที่ภาคกลางที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ในวันนี้นับเป็นพื้นที่ที่สองถัดจากพื้นที่ภาคอีสานตอนกลาง ซึ่งจัดขึ้น ณ จังหวัดขอนแก่นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าชมงานตลอดการดำเนินกิจกรรมมากกว่า 2,500 คน ในส่วนของกิจกรรม Coding Bootcamp จัดขึ้นสำหรับครูและนักเรียนจากโรงเรียนในพื้นที่ภาคกลางที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 400 คน 100 ทีม เพื่อเรียนรู้ทักษะโค้ดดิ้งเข้มข้น ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติจากผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลแถวหน้าของประเทศในหัวข้อต่าง ๆ ก่อนคัดเลือก 10 ผลงานเด่นสู่การเป็น 1 ใน 100 ทีมเข้าร่วมการแข่งขัน Coding War รอบ Final ที่ MCC Hall เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ระหว่างวันที่ 13 – 15 กันยายน ก่อนเฟ้นหาสุดยอดผลงาน ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท และรับสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันโค้ดดิ้งเวทีระดับนานาชาติอย่าง Seoul International Invention Fair 2024 (SIIF 2024) ณ สาธารณรัฐเกาหลี

ขณะที่กิจกรรม Coding Roadshow จัดขึ้นสำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไปที่สนใจ ซึ่งภายในกิจกรรมมีทั้งนิทรรศการและกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโค้ดดิ้ง รวมถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลจากกูรูที่จะมามอบความรู้ แลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์ อัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีและนวัตกรรมผ่านเวทีเสวนาและการบรรยายพิเศษตลอด 2 วัน ส่วนกิจกรรม Coding War เป็นการเปิดพื้นที่ให้ครูและนักเรียนจากโรงเรียนที่สนใจและส่งใบสมัครเข้าร่วมแข่งขันนำเสนอผลงานและคัดเลือกสู่การเป็น 1 ใน 100 ทีมเข้าร่วมการแข่งขัน Coding War รอบ Final เช่นกัน                                                                                 โดยโครงการ Coding for Better Life ยังได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน อาทิ แบรนด์ซุปไก่สกัด โดย บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศ ไทย) จํากัด, บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน), เอไอเอ ประเทศไทย และ เทโร เพอร์ฟอร์แมนซ์ คอร์ส เป็นต้น ที่มีเป้าประสงค์เดียวกัน คือ การปลูกฝังความรู้ด้านโค้ดดิ้งแก่ประชาชนไทยตั้งแต่ระดับเยาวชน ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยให้เด็กไทยเติบโตไปเป็นกําลังคนดิจิทัลที่มีคุณภาพ และเป็นกําลังสําคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลได้อย่างมีประ สิทธภาพต่อไป                                                                                 ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือติดตามรายละเอียดและข่าวสารต่าง ๆ ของโครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย ได้ทาง www.depa.or.th และเฟซบุ๊กเพจ depa Thailand และ CodingThailand by depa